อาการและความผิดปกติในระหว่างการตั้งครรภ์ของสตรี ที่ส่งผลกระทบต่อแม่และทารกในครรภ์
ซึ่งบางอาการอาจทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตของแม่และทารกในครรภ์
หรือบางอาการอาจส่งผลให้ทารกคลอดออกมาแล้วมีสุขภาพไม่แข็งแรงหรือไม่ปกติหรือทารกอาจเสียชีวิตหลังจากคลอดได้ไม่นาน
ซึ่งเราสามารถแบ่งอาการความผิดปกติของสตรีในระหว่างการตั้งครรภ๋ออกเป็น
๒ส่วนใหญ่ๆคือ ความผิดปกติที่สามารถทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตก่อนการคลอดออกมา
(ชึ่งการแพทย์แผนไทยเรียกว่าครรภ์วิปลาส)
และทารกคลอดออกมาแล้วมีชีวิตอยู่ได้แต่ไม่เป็นปกติ
๑.ความผิดปกติในระหว่างการตั้งครรภ์
ที่อยู่ในประเด็นครรภ์วิปลาส
ทารกเสียชีวิตในครรภ์เมื่ออายุครรภ์น้อยกว่า ๒๔
สัปดาห์
การที่ทารกเสียชีวิตเมื่ออายุครรภ์ยังน้อยอยู่
เกิดได้จากความผิดปกติของโครโมโซมของทารกเอง หรือจากการขาดออกซิเจนเรื้อรัง หรือ
ภาวะรกเสื่อม ทำให้ทารกในครรภ์ไม่สามารถเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ได้ ซึ่งเราถือว่าเป็นการแท้งบุตร
เพราะถึงแม้ทารกยังไม่เสียชีวิตแต่ถ้าคลอดออกมาในช่วงนี้ก็ไม่สา มารถช่วยให้มีชีวิตรอดได้อยู่ดี
ทารกเสียชีวิตในครรภ์เมื่ออายุครรภ์มากกว่า ๒๔ สัปดาห์
เมื่อร่างกายของทารกเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว แต่มีปัญหาอื่นตามมา อาทิ การไหลเวียนของเลือดไม่เพียงพอ
คุณแม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต ซึ่งส่งผลต่อทารกในครรภ์โดยตรง
อายุของคุณแม่ที่มากขึ้น (อายุ ๓๐ ปีขึ้นไป)
หรือเกิดจากอุบัติเหตุ คุณแม่มีความเกี่ยวข้องกับสารเสพติด
และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
๑.๑การแท้ง
กลุ่มเสี่ยง
-เป็นโรคติดเชื้อบางอบ่าง
เช่น ซิฟิลิส มาลาเรีย
-เป็นโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคมะเร็ง วัณโรค เบาหวาน ไทรอยด์เป็นพิษ
-รังไข่ทำงานผิดปกติ ทำให้สร้างฮอร์โมนบางตัว โดยเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนได้น้อยกว่าปกติ
-เป็นโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคมะเร็ง วัณโรค เบาหวาน ไทรอยด์เป็นพิษ
-รังไข่ทำงานผิดปกติ ทำให้สร้างฮอร์โมนบางตัว โดยเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนได้น้อยกว่าปกติ
-ความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์ของคุณแม่
เช่น มดลูกผิดปกติ บางคนมีผนังกั้นในโพรงมดลูก บางคนมีมดลูก ๒ อัน
บางคนมีความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์ในภายหลัง เช่น
เนื้องอกมดลูกหรือเนื้องอกรังไข่เบียดดัน จนทำให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโตต่อไปไม่ได้
-ความเครียด พักผ่อนไม่พอ ทำงานหนัก
การหกล้มหรือยกของหนัก ปัจจัยเหล่านี้ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่าทำให้เกิดการแท้ง
แต่เชื่อว่าน่าจะมีผลบ้างเช่นกัน
-ทารกที่แท้งออกมาโดยเฉพาะช่วง
๓ เดือนแรกของการตั้งครรภ์มีความผิดปกติทางโครโมโซม
(พันธุกรรม)
ได้มากถึงร้อยละ ๕๐-๖๐ ซึ่งอาจเกิดจากไข่ผิดปกติหรือตัวอสุจิที่มาผสมกับไข่มีความผิดปกติ
ได้มากถึงร้อยละ ๕๐-๖๐ ซึ่งอาจเกิดจากไข่ผิดปกติหรือตัวอสุจิที่มาผสมกับไข่มีความผิดปกติ
ผลลัพธ์ของอาการ
การแท้ง หมายถึง
การตั้งท้องสิ้นสุดลงก่อนที่ทารกในท้องจะมีชีวิตรอดออกมาลืมตาดูโลกภายนอก
การดูแลตัวเองของหญิงมีครรภ์
-งดการมีเพศสัมพันธ์ในระหว่
-งดอาหารรสเผ็ดร้อน และงดอาหารที่มีผลกระทบต่อการตั
-ทานอาหารดีที่มีประโยชน์ ครบ5หมู่
-พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ
-ทำจิตใจให้แจ่มใสเบิกบาน ไม่เครียด ไม่สลดหดหู่
-ระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติ
-งดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าเบียร์ เป็นต้น
อ้างอิง : เกรียงไกร อาตม์ประสิทธิ์ นักศึกษาแพทย์แผนไทย รุ่น๑๐ มหาวิทยาลัยรามคำแหง. "แผนการสอนความผิดปกติในระหว่างการตั้งครรภ์"
"การป้องกันความผิดปกติในระหว่างการตั้งครรภ์...วิธีที่ดีที่สุดคือ
ตรวจสุขภาพฟรี...กับคุณหมอเส็งโดยคุณหมอเส็ง
call : 083-2994748 หรือ 086-8809042
email : morsengsiam @gmail.com
www.morsengsiam.com
www.allherbs-ebiz.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น